7 วิธีหัดเล่นหุ้น ที่คิดว่าเหมาะสำหรับมือใหม่ ทำให้เริ่มต้นครั้งแรกได้อย่างสบายใจ


หัดเล่นหุ้น
แน่นอนว่าตลาดหุ้นเป็นที่ ๆ นักลงทุนหน้าใหม่หน้าเก่าแวะเวียนกันมาสนใจที่ลงทุน เพราะมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูด แต่ก็มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน เพราะฉะนั้นจะเริ่มต้นเล่นหุ้นสักทีก็คงต้องเตรียมตัวกันก่อน Moneywecan มี 7 วิธี หัดเล่นหุ้น สำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้นเล่นหุ้นเป็นครั้งแรก ไม่ว่าใคร ๆ ก็เริ่มลงทุนในหุ้นได้อย่างสบายใจ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
วิธีหัดเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่
1.รู้จักผลตอบแทนของหุ้น
ก่อนที่จะเริ่มลงทุนหัดเล่นหุ้น ลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของ “ผลตอบแทน” ของหุ้นกันดูก่อน ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นหลัก ๆ แล้วมี 2 ลักษณะ คือ
-กำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น หรือ Capital Gain คือ กำไรที่ได้มาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหุ้น เกิดเป็นกำไรส่วนเกินของทุน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ส่วนต่างของราคาซื้อ-ขายหุ้น นั่นเอง
-เงินปันผล หรือ Dividend คือเงินส่วนแบ่งจากผลกำไรของบริษัทในระหว่างปีที่บริษัทที่เราลงทุนนำเงินมาจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้น
2.เข้าใจความเสี่ยงของการเล่นหุ้น
สำหรับ มือใหม่หัดเล่นหุ้น อีกเรื่องที่ควรทำความเข้าใจ คือ ปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อผลตอบแทนในการลงทุนของเราได้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เองสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อหุ้นได้ด้วย ได้แก่
-ผลประกอบการ ภาวะอุตสาหกรรม และสถานการณ์เศรษฐกิจ : ปัจจัยที่มีผลต่อผลตอบแทนการลงทุนในหุ้นอย่างมากก็คือ ผลประกอบการของบริษัท บริษัทที่มีผลประกอบการดี ผู้ลงทุนก็ย่อมมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากกว่า ภาวะอุตสาหกรรม และสถานการณ์เศรษฐกิจ เป็นปัจจัยภายนอกที่สามารถส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทได้
-ความเสี่ยงทางธุรกิจ : ความเสี่ยงที่เกิดจากลักษณะของธุรกิจนั้น ๆ เช่น ประเภทธุรกิจ โครงสร้างเงินเดือนพนักงาน โครสร้างรายได้ ค่าใช้จ่ายของบริษัท
-ความเสี่ยงทางการเงินของบริษัท : ความเสี่ยงที่กิจการสร้างภาะผูกพันทางการเงินไว้ เช่น การก่อหนี้จำนวนมาก แต่ไม่มีรายรับมากพอมาจ่ายดอกเบี้ย หรือจ่ายเงินคืนได้ตามกำหนด
-ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง : ความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นไม่อาจเปลี่ยนหุ้นที่ลงทุนเป็นเงินสดได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะหุ้นนั้นมีการหมุนเวียนเปลี่ยนมือในตลาดรองน้อย
-ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงิน : การที่ระดับอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินเปลี่ยนแปลงผันผวนขึ้นลง ซึ่งมีผลกระทบต่อระดับอัตราผลตอบแทนที่ผู้ลงทุน
-ความไม่แน่นอนของอัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ : ความไม่แน่นอนของผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับเช่น การขายหุ้นได้ในราคาที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ หรือบริษัทอาจจ่ายเงินปันผลในระดับต่ำหรือไม่จ่ายเงินปันผลเลย
นักลงทุนมือใหม่สามารถลดความเสี่ยงปัจจัยที่มีผลต่อระดับผลตอบแทนการลงทุนของเราได้จากการศึกษาข้อมูลหุ้นบริษัทที่เราสนใจ โดยก่อนที่จะเริ่มเล่นหุ้น สามารถศึกษาข้อมูลแต่ละบริษัทได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่นเว็บไซต์ https://www.set.or.th/ นั่นเอง
3.เลือกโบรกเล่นหุ้น
โบรก, โบรกเกอร์ (Broker) หรือ บริษัทหลักทรัพย์ คือ บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจการเป็นนายหน้า ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้ผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายผู้ให้บริการ วิธีเลือกโบรกเก้อให้มาดูแลเรื่องเงิน ๆ ทองๆ ของเรามีดังนี้
1.เลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาตถูกต้องจากสำนักงาน ก.ล.ต.
2.ระบบของบริษัทมีมาตรฐาน โดยอาจเริ่มต้นจากการดูว่า เจ้าหน้าที่ที่ติดต่อด้วยมีความรู้ความชำนาญ ตอบข้อสงสัยได้ดีหรือไม่ มีเครื่องมือพร้อมที่จะให้บริการทั้งในส่วนของการติดต่อซื้อขายผ่านผู้ติดต่อกับนักลงทุนและซื้อขายผ่านออนไลน์ได้อย่างมีมาตรฐาน
3.โบรกเกอร์มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง มีผลการดำเนินงานดี โดยสามารถดูได้จากตัวเลข เงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (Net Capital Rule : NCR) ในรายงานประจำปีของแต่ละโบรกเกอร์
4.บทวิเคราะห์มีความแม่นยำ เชื่อถือได้
5.ค่าธรรมเนียมมีความเหมาะสม
6.เหมาะกับไลฟ์สไตล์ เช่น เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบายในการซื้อขายหุ้นออนไลน์ มีความทันสมัยและน่าเชื่อถือ หรือระบบการบริการลูกค้าต่าง ๆ เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม : โบรกเกอร์หุ้น คืออะไร พร้อมเปิดรายชื่อ 7 โบรกเกอร์หุ้นไหนดีที่มีคนสนใจลงทุนมากที่สุด
4.เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น
เมื่อเลือกโบรกสำหรับหัดเล่นหุ้นได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชีก็จะไม่แตกต่างกันมาก ได้แก่
-สำเนาบัตรประชาชน
-สำเนาทะเบียนบ้าน
-สำเนาหน้า Book Bank
-เอกสารอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่เราสมัคร
5.เข้าใจคำศัพท์สำคัญในโปรแกรมเทรดหุ้น
มาถึงตรงนี้ ก็ใกล้ถึงขั้นตอนที่จะกดซื้อ-ขายหุ้นได้แล้ว แต่ขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ทำความเข้าใจคำศัพท์สำคัญในโปรแกรมเทรดหุ้นให้ดีซะก่อนที่จะเริ่ม จะได้ไม่กดผิด กดถูกทำเสียเงินแบบไม่รู้ตัว
โปรแกรมซื้อ-ขายหุ้นที่นิยมใช้กับทั่วไปคือโปรแกรมหรือแอป Streaming ซึ่งบางโบรกก็อาจใช้โปรแกรมอื่นที่ต่างไปได้ แต่ศัพท์สำคัญ ๆ ก็จะคล้าย ๆ กัน มีอะไรบ้าง ไปดูกัน…
-Portfolio คือ ส่วนที่จะแสดงพอร์ตการลงทุนของเรา ว่าได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไร
-Account No. คือ หมายเลขบัญชีของเรา
-Credit Line คือ วงเงินอนุมัติจากทางบริษัท หมายความว่าเราจะไม่สามารถซื้อหุ้นเกินมูลค่า Credit ที่ให้ไว้ได้
-Line Available คือ อำนาจซื้อที่แท้จริง ณ เวลานั้น ๆ เช่น เราโอนเงินเข้าบัญชี 100,000 บาท มูลค่า Line ตั้งต้นจะเท่ากับ 100,000 บาท เมื่อเราสั่งซื้อหุ้นไป 30,000 บาท มูลค่า Line จะถูกหักออก 30,000 บาท เท่ากับเรามีอำนาจซื้อเพิ่มเติมได้อีกไม่เกิน 70,000 บาท ซึ่งเราจะสามารถซื้อหุ้นได้เพิ่มเติมอีกไม่เกินมูลค่า Line ที่ปรากฏ
-Cash คือ มูลค่าเงินสดในบัญชีของเรา
-Volume คือ จำนวนหุ้นที่ซื้อ-ขายกันในวันนั้น
-Value คือ มูลค่าการซื้อ-ขายเป็นเงินเท่าไรในวันนั้น
-Buy คือ การซื้อหุ้นเข้า Port
-Sell คือ การขายหุ้นออกจาก Port
-Opened หรือ Queuing (SX) คือ คำสั่งซื้อ-ขายที่รอการจับคู่ หรือมีการจับคู่ได้แล้วบางส่วน
-Matched คือ คำสั่งซื้อ-ขายได้รับการจับคู่แล้ว
-Bid คือ ราคาเสนอซื้อเข้ามาสูงสุด ณ เวลานั้น
-Offer คือ ราคาเสนอขายเข้ามาสูงสุด ณ เวลานั้น
6.โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อเล่นหุ้น
สำหรับมือใหม่หัดเล่นหุ้น อาจทดลองด้วยต้นทุนน้อย ๆ ซะก่อน ซึ่งแต่ละโบรกก็จะมีขั้นต่ำของเงินลงทุนซื้อขายหุ้นที่ต่างกันไป ขั้นตอนในการโอนเงินเข้าพอร์ตเพื่อเริ่มลงทุนก็ไม่อยาก คือ
1.โอนเงินเข้าบัญชีโบรกเกอร์
2.แจ้งการโอนเงินกับโบรกตามขั้นตอน
3.ตรวจสอบยอดเงินในโปรแกรมที่ใช้ซื้อขายว่าถูกต้องครบถ้วน
7.เลือกหุ้นตัวแรก
มือใหม่หัดเล่นหุ้นที่ต้องการลงทุนอาจเริ่มหาหุ้นตัวแรกจาก รายชื่อหุ้นใน SET50 ซึ่ง SET50 ก็คือ หุ้น 50 ตัวแรกที่มีมูลค่าเยอะที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย พูดง่าย ๆ คือ 50 หุ้นที่ดีที่สุดของตลาดหุ้นไทยนั่นเอง ซึ่งเพื่อน ๆ ก็ควรนำรายชื่อหุ้นเหล่านี้มาศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจการของหุ้นตัวนั้นว่าทำอะไร มีแนวโน้มจะเติบโตในอนาคตได้หรือไม่ รายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เป็นต้น เพื่อนำข้อมูลที่ได้ดังกล่าวมาใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุน รายชื่อหุ้นใน SET50 สามารถเข้าไปดูได้จากเว็บ www.set.or.th
สำหรับมือใหม่อยากลองเล่นหุ้น คงจะรู้แล้วว่าการเริ่มต้นนั้นไม่ยากอย่างที่คิด อ่านมาถึงตรงนี้ก็พร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นลงทุนในหุ้นอย่างสบายใจได้เลย แล้วก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลของหุ้นที่สนใจลงทุนก่อนลงทุนทุกครั้งด้วยนะคะ ก็หวังว่าบทความ หัดเล่นหุ้น ที่เรามาแนะนำจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ นะคร้าาาาา